บ้านแลกเงิน
อัตราดอกเบี้ย - ตามที่ทางธนาคารกำหนด
วงเงิน - ตามที่ทางธนาคารกำหนด
การชำระ - ไม่เกิน 40 ปี
บ้านล้านหลัง
อัตราดอกเบี้ย - เริ่มต้น 1.99% ต่อปี
วงเงิน - ไม่เกิน 1.2 ล้านบาท
การชำระ - ไม่เกิน 40 ปี
ธนาคารอาคารสงเคราะห์สินเชื่อบ้าน 2566
อัตราดอกเบี้ย - ไม่เกิน 13.5% ต่อปี
วงเงิน - ไม่กำหนด
การชำระ - ไม่กำหนด
สินเชื่อต่อเติมบ้าน ธอส 2566
อัตราดอกเบี้ย - เริ่มต้น 3.15% ต่อปี
วงเงิน - ไม่กำหนด
การชำระ - ไม่เกิน 40 ปี
ธอส สินเชื่อบ้าน 2566 ผู้มีรายได้น้อย
อัตราดอกเบี้ย - เริ่มต้น 3.15% ต่อปี
วงเงิน - สูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาทต่อราย
การชำระ - ไม่เกิน 40 ปี
สินเชื่อบ้านกรุงศรี
อัตราดอกเบี้ย - เริ่มต้น 4.02%-4.52% ต่อปี
วงเงิน - สูงสุด 90% ของราคาประเมิน
การชำระ - ไม่เกิน 30 ปี
สินเชื่อบ้าน ธอส
อัตราดอกเบี้ย - ไม่เกิน 13.5% ต่อไป
วงเงิน - ไม่กำหนด
การชำระ - ไม่กำหนด
สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงเทพ
อัตราดอกเบี้ย - เริ่มต้น 3.00-4.65% ต่อปี
วงเงิน - สูงสุด 70-100% ของราคาประเมินหลักทรัพย์
การชำระ - ไม่เกิน 30 ปี
สินเชื่อบ้านกรุงไทย
อัตราดอกเบี้ย - เริ่มต้น EIR : 4.20-4.38% ขึ้นอยู่กับการทำประกัน
วงเงิน - สูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักทรัพย์
การชำระ - ไม่เกิน 40 ปี
สินเชื่อบ้านออมสิน
อัตราดอกเบี้ย - เริ่มต้น MRR+1.00 ต่อปี
วงเงิน - สูงสุด 110% ของราคาประเมินหลักทรัพย์
การชำระ - ไม่กำหนด
สินเชื่อบ้านมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด
ถ้าคุณไม่ได้เตรียมเงินสดก้อนโตเอาไว้เพื่อซื้อบ้านสิ่งที่จะช่วยให้คุณไปถึงฝันของการมีที่อยู่อาศัยได้เร็วกว่าการเก็บเงินก็คือการขอสินเชื่อบ้านนั่นเอง และเมื่อคุณมีบ้านแล้วยังสามารถใช้ประโยชน์จากสินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อบ้านมือสองหรือการรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ยได้อีกด้วย การมีบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์จึงเป็นสิ่งที่หลายคนตั้งเป้าหมายเอาไว้เนื่องจากมีมูลค่าในตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คุ้มค่ากับการลงทุนและเป็นการวางรากฐานความมั่นคงให้กับชีวิตหลังเกษียณ วันนี้เราลองมารู้เรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังของสินเชื่อบ้านกันให้มากขึ้นดีกว่าคุณจะได้นำไปเปรียบเทียบเพื่อขอกู้สินเชื่อบ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การเงินของคุณผู้ที่กำลังมองหาสินเชื่อไหนผ่านง่ายให้มากที่สุด
สินเชื่อบ้านมีแบบไหนบ้าง
เมื่อคิดถึงสินเชื่อบ้านขึ้นมายังมีประเภทของข้อมูลสินเชื่อแยกย่อยลงไปอีกเพื่อให้เหมาะกับสินทรัพย์แต่ละรูปแบบ โดยคุณต้องรู้ให้ชัดก่อนว่าคุณต้องขอสินเชื่อแบบไหน
- บ้านพร้อมที่ดิน และทาวน์เฮ้าส์
ส่วนใหญ่สินเชื่อประเภทนี้จะให้คุณกู้ได้ไม่เกิน 80%-100% ของราคาซื้อขายและราคาประเมิน โดยมีระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดประมาณ 30-40 ปี
- ห้องชุดที่มีระดับราคาขายตั้งแต่ห้องละ 500,000 บาทขึ้นไป
ถ้าจะเรียกกันให้คุ้นเคยมากขึ้นก็คือกู้ซื้อคอนโนนั่นเอง ส่วนใหญ่แล้วให้กู้ได้ไม่เกิน 80%-100% ของราคาซื้อขายและราคาประเมิน ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดประมาณ 25-40 ปี
- อาคารพาณิชย์
กู้ได้ไม่เกิน 80% ของราคาซื้อขายและราคาประเมิน ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดประมาณ 30-40 ปี
- ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินของตนเอง
กู้ได้ไม่เกิน 100% ของราคาค่าปลูกสร้าง แต่ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 30 ปี
- ต่อเติมหรือปรับปรุงที่อยู่อาศัย
ในกรณีที่คุณมีบ้าน อาหาร หรือคอนโดอยู่แล้วต้องกู้สินเชื่อบ้านประเภทนี้ ซึ่งจะกู้ได้ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินส่วนที่ต่อเติม และไม่เกิน 80% ของราคาประเมินบ้านและที่ดิน วงเงินกู้สูงสุดมักจะไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยมักมีระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 10 ปี
- การรีไฟแนนซ์
ถือเป็นสินเชื่อบ้านประเภทหนึ่งที่จะใช้เมื่อคุณนำอสังหาริมทรัพย์ไปยื่นกู้กับธนาคารใหม่เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ถูกลง - การขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินเปล่า
โดยจะแบ่งออกเป็นทั้งที่ดินเปล่าที่ธนาคารสนับสนุน ที่ดินเปล่าไว้เพื่อขยายที่อยู่อาศัย ที่ดินเปล่าจากการประมูลของกรมบังคับคดี ที่ดินเปล่าที่ธนาคารขายทอดตลาด เป็นต้น
สินเชื่อบ้านมือหนึ่งกับสินเชื่อบ้านมือสองต่างกันอย่างไร
เมื่อพูดถึงการซื้อบ้านอาจไม่ใช่ทุกคนที่สนใจบ้านใหม่หรือบ้านมือหนึ่งเท่านั้น บ้านมือสองจึงเป็นทางเลือกที่หลาย ๆ คนต้องการ แต่คุณอาจไม่รู้ว่าขั้นตอนของการขอผ่อนบ้านกับธนาคารแบบบ้านมือหนึ่งกับมือสองนั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งบ้านทั้งสองแบบนี้จะแตกต่างกันตรงไหนบ้างมาดูกันเลย
- บ้านมือหนึ่ง
– เลือกแบบบ้านได้ตามที่ต้องการ
– พร้อมเข้าอยู่ทันทีหากโครงการดำเนินการสร้างเสร็จเรียบร้อย
– สามารถขอสินเชื่อบ้านได้ง่ายกว่าและกู้สินเชื่อบ้านได้เต็มวงเงิน
– มีโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมายทั้งจากโครงการและทางธนาคาร - บ้านมือสอง
– ราคาถูกกว่า
– มีโอกาสได้ทำเลทองกว่าบ้านมือหนึ่งใหม่ ๆ เพราะจับจองทำเลมาก่อนแล้ว
– บ้านมือสองจะไม่สามารถขอสินเชื่อบ้านได้เต็มวงเงินและยังไม่สามารถผ่อนดาวน์ได้
– อาจต้องเจอกับสัญญาซื้อขายที่ไม่เป็นมาตรฐานเท่ากับการซื้อจากโครงการ
สินเชื่อบ้านแลกเงินคืออะไร
เมื่อพูดถึงเรื่องของบ้านและที่อยู่อาศัยกันแล้วคงไม่ได้มีแต่คนมีบ้านเท่านั้นที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างสินเชื่อบ้าน แต่คนที่มีบ้านแล้วก็ต้องการเช่นเดียวกันจึงเกิดเป็นสินเชื่อบ้านแลกเงินขึ้น โดยสินเชื่อประเภทนี้จัดเป็นสินเชื่อแบบอเนกประสงค์ ทำให้คนที่มีบ้านได้เงินก้อนมาเพิ่มสภาพคล่องด้วยการนำสินทรัพย์ในประเภทที่อยู่อาศัยที่ปลอดหนี้แล้วไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอกู้เงินก้อนนั่นเอง
สินเชื่อบ้านแลกเงินเหมาะกับคนที่มีสินทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยที่ปลอดหนี้แล้วต้องการเงินก้อนมาใช้จ่าย หรือคนที่อยากต่อเติมบ้าน รวมทั้งคนที่ต้องการรวมหนี้แล้วจัดการใช้หนี้เป็นก้อนเดียวเพราะสินเชื่อบ้านแลกเงินมาพร้อมกับดอกเบี้ยที่ถูกกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่ต้องการเงินก้อนเพื่อไปลงทุนก็ยังสามารถใช้สินเชื่อตัวนี้ให้เกิดประโยชน์ได้เช่นเดียวกัน
ซื้อบ้านหลังแรกควรเตรียมตัวอย่างไร
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถขอสินเชื่อบ้านผ่าน คุณจึงควรเตรียมตัวให้ดีก่อนยื่นกู้สินเชื่อบ้านเพื่อที่คุณจะได้ไม่เสียเวลาไปเปล่า ๆ โดยไม่ได้อะไรกลับมา โดยหลัก ๆ แล้วคุณควรเตรียมตัวดังนี้
- เอกสารเบื้องต้นและคุณสมบัติเบื้องต้น
คุณต้องมีสัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และส่วนใหญ่ไม่ควรเกิน 65-70 ปี จากนั้นเตรียมเอกสารเบื้องต้นอย่าง บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน เอกสารรับรองการทำงาน หลักฐานแสดงรายได้พิเศษ บัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 6-12 เดือน ถ้าคุณมีเอกสารส่วนไหนก็ควรเตรียมเอาไว้เพราะต้องใช้ 100%
- ตรวจสอบรายได้ก่อนกู้สินเชื่อบ้าน
ส่วนนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะทางธนาคารจะใช้รีวิวว่าคุณมีความสามารถในการใช้หนี้หรือไม่ เริ่มจากคุณไม่ควรมีหนี้เกิน 30% ของรายได้ และถ้ามีหนี้ส่วนไหนปิดได้ควรปิดให้ได้ก่อนขอสินเชื่อบ้าน จากนั้นประเมินรายได้สุทธิของคุณว่ามีเท่าไรแล้วคูณ 50 เท่าเข้าไป เพราะส่วนใหญ่แล้วนี่คือจำนวนของราคาบ้านที่คุณสามารถซื้อได้
- ตรวจสอบว่าสินเชื่อบ้านที่ไหนดีและมีดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านถูก
การค้นหาให้เจอว่าสินเชื่อบ้านที่ไหนดี สินเชื่อบ้านธนาคารไหนอนุมัติง่ายและมีดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเหมาะกับคุณมากที่สุดถือว่ามีส่วนช่วยลดค่าบ้านให้กับคุณได้เป็นอย่างมาก เพราะแม้ดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านจะไม่สูงเท่าไร แต่จ่ายในระยะยาวหลายสิบปีรวมกันแล้วก็เป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
- หากมีคนกู้สินเชื่อบ้านร่วมจะช่วยให้อนุมัติง่ายวงเงินสูงขึ้น
โดยคนที่สามารถร่วมกู้สินเชื่อบ้านด้วยกันได้นั้นจะต้องเป็นพ่อแม่ พี่น้อง (นามสกุลเดียวกัน) คู่สมรสที่ทั้งจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียน โดยทางธนาคารจะให้คุณกรอกข้อมูลรายละเอียดถึงความสัมพันธ์เพิ่มและต้องบ่งบอกว่าคุณใช้ชีวิตร่วมกันจริง
เลือกบ้านแบบไหนดีที่สุด
นอกจากเรื่องของการหาสินเชื่อบ้านที่คุ้มค่าที่สุดแล้วคุณก็ต้องมองหาบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุดเช่นเดียวกัน
- เน้นทำเล
ทำเลที่ดีต้องดีกับคุณในเรื่องของการเดินทาง เข้าออกสะดวก ใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกและปลอดภัยทั้งห้างร้าน โรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานีดับเพลิง เป็นต้น - เลือกผู้ประกอบการที่ไว้ใจได้
อย่าลืมสืบหาประวัติที่ผ่านมาของเจ้าของโครงการที่คุณกำลังจะทำการซื้อก่อนว่าเคยมีประวัติเสียหายหรือไม่ และพยายามเข้าไปดูบ้านจริงสำรวจวัสดุคุณภาพเบื้องต้นก่อน - ตำแหน่งของบ้านก็สำคัญ
บ้านที่ไม่ร้อน ลมผ่านดี จะช่วยให้คุณอยู่สบายพร้อมทั้งประหยัดค่าไฟให้กับคุณได้ดีขึ้น - เลือกให้เหมาะกับจำนวนคน
ถ้าอยู่คนเดียวหรือเป็นครอบครัวเดียวบ้านเพียง 2-3 ห้องนอนก็เพียงพอสำหรับไลฟ์สไตล์แล้ว เรื่องนี้ต้องคิดให้ดีเพราะคุณจะต้องอยู่อาศัยไปอีกยาวนาน - โปรโมชั่นและของแถม
เรื่องนี้พลาดไม่ได้เพราะถือเป็นสิทธิประโยชน์ของคุณ ลองถามโปรโมชั่นฟรีโอน ฟรีจดจำนอง แถมแอร์ หรือสิ่งต่าง ๆ ส่วนนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับคุณได้เป็นอย่างดี
ขั้นตอนการผ่อนบ้านกับธนาคารมีอะไรที่คุณต้องรู้บ้าง
มาดูกันดีกว่าว่าเมื่อคุณตัดสินใจยื่นผ่อนบ้านกับธนาคารแล้วจะต้องผ่านขั้นตอนไหนบ้าง เพื่อที่คุณจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปวางแผนกันให้ดีนั่นเอง
- ยื่นเอกสารขอสินเชื่อ
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อบ้านหรือคอนโดที่ไหนก็ให้ทำสัญญาจะซื้อจะขายกับทางโครงการหรือผู้ขายให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำเอกสารเหล่านี้ไปยื่นกับธนาคารที่คุณสนใจ ทางเจ้าหน้าที่จะช่วยตรวจสอบพร้อมทั้งสินเชื่อบ้านแนะนำที่เหมาะกับคุณ พร้อมทั้งช่วยประเมินเบื้องต้นอีกด้วย
- ประเมินราคา
ทางธนาคารจะให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปประเมินบ้านเพื่อประกอบการพิจารณาวงเงินในการปล่อยกู้ คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของการประเมิน แต่ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าคุณนั้นจะกู้สินเชื่อบ้านผ่าน ดังนั้นก่อนการยื่นกู้สินเชื่อบ้านคุณควรตรวจสอบความเป็นไปได้ก่อนเพื่อไม่ให้เสียเงินค่าประเมินส่วนนี้ไปฟรี ๆ
- รอผลการอนุมัติ
ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาในขั้นตอนนี้ประมาณ 7-20 วัน โดยอาจมีการติดต่อเข้ามาขอเอกสารเพิ่มเติมหรืออาจแจ้งผลการอนุมัติ - ทำสัญญาการกู้สินเชื่อบ้าน
หลังจากคุณผ่านการอนุมัติสินเชื่อบ้านเรียบร้อยแล้วคุณจะต้องไปทำสัญญาการกู้ภายใน 45 วัน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าคุณไม่ต้องการสินเชื่อบ้านแล้ว และหากต้องการขอใหม่จะต้องดำเนินเการเริ่มใหม่ทั้งหมด
- โอนกรรมสิทธิ์
ขั้นตอนนี้จะมีทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ธนาคาร ร่วมกันทำการโอน โดยคุณอาจมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่โครงการดำเนินการแทนได้ ในขั้นตอนนี้จะมีค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ รวมทั้งส่วนเกินค่าบ้านที่คุณอาจต้องชำระ หลังเสร็จขั้นตอนนี้บ้านก็พร้อมจะเป็นของคุณในทันทีและส่วนของการเริ่มต้นผ่อนกับธนาคารก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ที่ปรึกษาสินเชื่อบ้านช่วยคุณในเรื่องอะไรได้บ้าง
ถ้าคุณไม่มีเวลาในการหาข้อมูลหรือไม่มั่นใจในเรื่องของสินเชื่อบ้านคุณสามารถหาที่ปรึกษาสินเชื่อบ้านได้ และส่วนใหญ่แล้วถ้าคุณซื้อบ้านมือหนึ่งหรือคอนโดเจ้าหน้าที่ของโครงการมักจะสามารถให้คำปรึกษา พร้อมทั้งดำเนินการให้คุณในทุกขั้นตอนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากค่าใช้จ่ายในการจองเท่านั้น และในตอนนี้ยังมีนโยบายคืนเงินจองหากกู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่านในหลาย ๆ ที่อีกด้วย ที่สำคัญทางโครงการจะมีรายละเอียดของข้อมูลสินเชื่อเตรียมเอาไว้ให้คุณได้เลือก ดังนั้นถ้าสนใจโครงการไหนสามารถเดินทางไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งรับการบริการกันแบบฟรี ๆ ได้เลย
ข้อมูลสินเชื่อกับค่าธรรมเนียมคุณควรรู้ก่อนยื่นกู้
นอกจากค่าบ้านและที่ดินแล้วคุณยังต้องเจอกับค่าธรรมเนียมพร้อมทั้งเงื่อนไขต่าง ๆ ของสินเชื่อบ้านอีกไม่น้อย ดังนั้นคุณควรรู้ทันเอาไว้ก่อนเพื่อที่จะไม่เสียเปรียบ พร้อมทั้งยังได้วางแผนการเงินเพิ่มเพื่อไม่ให้มีขั้นตอนไหนต้องสะดุด
- ค่าจองค่าทำสัญญา
เมื่อคุณสนใจบ้านหรือคอนโดมักจะต้องทำสัญญาจองเพื่อที่จะนำสัญญานี้ไปเป็นเอกสารประกอบการขอสินเชื่อบ้านนั่นเอง ส่วนใหญ่มักมีราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาทหรือตามที่ทางโครงการเหล่านั้นกำหนด โดยต้องสอบถามให้ดีว่าในกรณีที่กู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่านทางโครงการจะคืนเงินจองให้หรือไม่ - เงินดาวน์หรือผ่อนดาวน์
บางครั้งโครงการที่คุณสมใจอยู่อาจยังสร้างไม่เสร็จจึงสามารถให้คุณผ่อนดาวน์เพื่อลดภาระการกู้สินเชื่อบ้านได้ โดยหากสุดท้ายแล้วคุณไม่สามารถกู้สินเชื่อบ้านผ่านมักจะมีเงื่อนไขคืนเงินดาวน์ให้ แต่ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจไม่เอาโครงการนี้เองอาจต้องเสียเงินส่วนนี้ไปฟรี ๆ - ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้
มักจะต้องเสียเป็นเงิน 0-1% ของยอดกู้ ยกเว้นจะมีการงดเก็บค่าธรมเนียม ส่วนนี้ต้องศึกษาเงื่อนไขกันให้ดีก่อน - ค่าประเมิน
เมื่อยื่นขอสินเชื่อเรียบร้อยแล้วจะต้องมีการประเมินสินทรัพย์ขึ้น ซึ่งคุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอง และหากไม่ผ่านการอนุมัติเงินส่วนนี้จะไม่ได้คืน - ประกันสินเชื่อบ้าน
ถ้าในเงื่อนไขมีในส่วนนี้คุณก็จะต้องเสียเงินประกันเพิ่มนั่นเอง - ค่าประกันบ้าน
สามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ แต่ทางเราแนะนำว่าการทำนั้นมีผลดีกับคุณมากกว่าเพราะช่วยเรื่องการเงินให้กับคุณได้หากเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นภายในบ้าน เช่น ไฟไหม้หรือภัยพิบัติต่าง ๆ - ค่าโอนกรรมสิทธิ์
เกิดขึ้นในวันที่การโอนมาถึง คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 2% จากราคาซื้อขาย และค่าจดจำนองอีก 1% ของราคาซื้อขาย ค่าอากรแสตมป์ 0.05% - ค่าใช้จ่ายให้กับโครงการ
ทั้งค่าเงินกองทุนหากทางโครงการมี ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ค่าติดตั้งพร้อมค่าประกันมิเตอร์น้ำไฟ
การวางแผนการเงินเพื่อขอสินเชื่อบ้าน
เราลองมาดูขั้นตอนของการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อจะได้กู้สินเชื่อบ้านผ่านกันแบบฉลุยดีกว่าว่าคุณควรเตรียมตัวและวางแผนอย่างไรบ้าง
- ประเมินความสามารถในการจ่ายหนี้
การประเมินในครั้งนี้ให้ลองเอาค่างวดของการผ่อนบ้านที่คุณกำลังเล็งอยู่รวมเข้าไปด้วย ถ้ารวมแล้วไม่เกิน 40% ของรายได้ก็มีแนวโน้มสูงที่สุขภาพทางการเงินของคุณยังเหมาะที่จะขอสินเชื่อบ้านเพิ่ม และมีส่วนช่วยทำให้อนุมัติผ่านง่ายขึ้น - วางแผนเก็บเงินดาวน์และเงินสำรอง
ถ้าคุณสามารถวางเงินดาวน์ 10%-20% ได้จะมีส่วนช่วยลดภาระในการขอสินเชื่อบ้านให้กับคุณได้เป็นอย่างดี และยังควรมีเงินสำรองเอาไว้เพื่อค่าใช้จ่ายส่วนอื่นของการซื้อบ้านอีกด้วย - มีหนี้ต้องเคลีย
หากคุณมีหนี้ส่วนไหนอยู่และสามารถจัดการได้เราขอแนะนำให้จัดการก่อนไปยื่นสินเชื่อบ้านเพื่อที่จะช่วยให้คะแนนเครดิตและสุขภาพทางการเงินของคุณดีและน่าเชื่อถือ โดยลองตรวจสอบคะแนนเครดิตของคุณก่อนยื่นสินเชื่อบ้านจะช่วยให้คุณประเมินตัวเองได้ง่ายขึ้น - Statement ต้องเดินสวย
มีรายรับ รายจ่าย และเงินคงเหลือที่บ่งบอกถึงฐานะทางการเงินที่ดีของคุณติดต่อกัน 6-12 เดือนมีส่วนช่วยให้คุณขอสินเชื่อผ่านง่ายขึ้นโดยเฉพาะถ้าเป็นการซื้อบ้านหลังแรก
สินเชื่อบ้านที่ไหนดี 2566และสินเชื่อบ้านธนาคารไหนอนุมัติง่าย 2023มาดูกัน
ถึงเวลาสำคัญในการมาดูกันแล้วว่าคุณจะเลือกสินเชื่อบ้านที่ไหนดีและเลือกสินเชื่อบ้านธนาคารไหนอนุมัติง่ายเพื่อให้แผนขอคุณราบรื่นมากยิ่งขึ้น
- สินเชื่อบ้านออมสิน สินเชื่อบ้านใหม่
ใครกำลังมองหาดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ดีที่สุดต้องยกให้ที่นี่ เพียงคุณสมัครบริการ MyMo หรือผลิตภัณฑ์จากออมสินตั้งแต่ 2 ประเภทขึ้นไปก็สามารถรับดอกเบี้ยพิเศษนี้กันไปได้เลย โดยมีระยะเวลาในการกู้ไม่เกิน 40 ปี รวมอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 70 ปี มาพร้อมเงื่อนไขผ่อนล้านละ 2,500 บาทในปีแรก 4,500 ในปีต่อมาและ 5,500 ในทปีที่สาม ในอัตราดอกเบี้ย 6.245%
- ธนาคารซีไอเอ็มบี สินเชื่อบ้านซีไอเอ็มบี
สินเชื่อบ้านตัวนี้ให้ระยะเวลาในการกู้ทั้งหมดไม่เกิน 35 ปี และผู้กู้ต้องอายุไม่เกิน 70 ปีในระยะเวลาผ่อนชำระ โดยมาพร้อมอัตราดอกเบี้ย 7.35% ต่อปีและมีเงื่อนไขของ LTV เข้ามาร่วมด้วย ใครที่กำลังมองหาทางเลือกที่ดีจากสินเชื่อบ้านรีวิวของสินเชื่อตัวนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้ใคร
- สินเชื่อบ้านกรุงศรี
สินเชื่อตัวนี้ให้คุณผ่อนยาว 30 ปี โดยอายุผู้กู้รวมกับระยะเวลากู้แล้วไม่เกิน 65 ปี ให้วงเงิน 90% ของราคาประเมิน และถ้าคุณเลือกซื้อประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่ออย่าง MRTA หรือ MLTA ด้วยจะได้รับสิทธิพิเศษลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปีในปีแรก และมาพร้อมอัตราดอกเบี้ย 6.05% ต่อปี
- ธนาคาร ธอส สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข
มาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยในปีแรกเพียง 1.75% สมัครได้ทั้งพนักงานประจำและอาชีพอิสระ เหมาะกับคนที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกในราคาที่จ่ายไหว ทางทีมงานของธอส. พร้อมให้คำแนะนำและดำเนินการสินเชื่อให้กับคุณอย่างเต็มที่ คุณสามารถเข้าไปปรึกษาที่สาขาก่อนได้เพื่อตามหาสินเชื่อที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
- สินเชื่อบ้านกรุงไทยสินเชื่อบ้านครบรอบ 56 ปี
บอกเลยว่าใครที่กำลังจะซื้อบ้านในปีนี้ต้องไม่พลาดสินเชื่อจากสินเชื่อบ้านกรุงไทยเด็ดขาดเพราะมาพร้อมสิทธิพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนง่าย ๆ ให้ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้นเพียง 0.56% และในปีแรกให้คุณได้ผ่อนเพียง 3,000 บาทต่อเดือน ผ่อนได้นานสูงสุดถึง 40 ปี พร้อมให้วงเงินกู้สูงสุด 100% อีกด้วย
การรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านมีประโยชน์อย่างไร
เมื่อคุณผ่อนบ้านกับธนาคารมาประมาณ 3-4 ปีการรีไฟแนนซ์มักจะมีประโยชน์กับเรื่องของอัตราดอกเบี้ย เพราะสามารถทำให้ถูกลงได้และช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวให้กับคุณได้ดี คุณจะได้เจอกับโปรโมชั่นดอกเบี้ยปีแรกอีกรอบ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกกว่า 3%-4% เลยทีเดียว
แต่ขั้นตอนของการรีไฟแนนซ์นั้นเหมือนกับการขอสินเชื่อบ้านใหม่เลยทีเดียวแต่มีแนวโน้มจะเจอกับสินเชื่อบ้านธนาคารไหนอนุมัติง่ายกว่าการขอครั้งแรกเนื่องจากมีประวัติการจ่ายหนี้ที่ดีมาแล้วนั่นเอง ดังนั้นคุณควรติดตามข่าวสาวและหมั่นเปรียบเทียบดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านอยู่เรื่อยๆ เช่น ธนาคารกรุงไทยสินเชื่อบ้าน กรุงเทพ และอื่นๆ อีกมากมาย
สรุปเรื่องราวของสินเชื่อบ้าน
เมื่อได้รู้ทั้งการขอสินเชื่อบ้านแบบต่าง ๆ และยังมีวิธีหาประโยชน์จากสินทรัพย์ของคุณด้วยสินเชื่อบ้านแลกเงินกันไปแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาเตรียมตัวให้พร้อมกับการกู้สินเชื่อบ้านเพื่อที่จะให้การอนุมัติผ่านฉลุย และตามหาดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ดีที่สุดสำหรับคุณกัน บอกเลยว่าถ้าทำตามขั้นตอนและมีรายรับรายจ่ายพร้อมทั้งเงินคงเหลือที่เหมาะสมการขอสินเชื่อจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณอีกต่อไป